top of page

บงกช กองชัยเสรีภาพ - เรื่องเล่าของหญิงสาวและกองเสื้อผ้าที่มีน้ำตาซ่อนอยู่

HIGHLIGHTS

  • ก่อนที่ออฟ -บงกช จะเริ่มก่อตั้ง Proud Declutter Coach (โค้ชและที่ปรึกษาด้านการจัดระเบียบบ้าน) เธอเคยเป็นคนที่ชอบจัดบ้านแต่ล้มเหลวบ่อยๆ จุดเปลี่ยนสำคัญคือการได้อ่านหนังสือ ชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้านด้วยก ารจัดบ้านแค่ครั้งเดียวของ คนโด มาริเอะ และหัดลองฝึกฝนลงมือทำอย่างจริงจัง

  • หัวใจสำคัญของการจัดระเบียบบ้าน ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำความสะอาดให้บ้าน หายรกเท่านั้น แต่คือการทำความเข้าใจตัวเอง เพื่อมุ่งเน้นแก้ไขปัญหาที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจ ซึ่งช่วยแก้ปัญหาในระยะยาวและยั่งยืนกว่า

  • หน้าที่ของ Declutter Coach แตกต่างกับแม่บ้าน ตรงที่มีการใช้ทักษะของ Life coach เข้ามาช่วยรับฟังปัญหา เป็นเสมือนเพื่อนคู่คิด ตั้งคำถามเพื่อให้เจ้าของบ้านหาคำตอบที่ลงตัวและมีความสุขกับคำตอบนั้นในการแก้ไขปัญหาบ้านรกและปัญหาส่วนตัว

ในช่วงสามสี่ปีนี้ กระแสการจัดระเบียบบ้านกำลังเป็นที่นิยมไปทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย โดยเฉพาะหนังสือของคนโด มาริเอะ ที่ปรึกษาการจัดระเบียบบ้านสาวชาวญี่ปุ่น ที่สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมากหันมาจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อยและเปลี่ยนแปลงชีวิต ความคิดและจิตใจ

ด้วยเสน่ห์การจัดระเบียบบ้านและความน่าสนใจของอาชีพนี้ จุดประกายให้ ออฟ – บงกช กองชัยเสรีภาพ หญิงสาวดีกรีปริญญาโท บริหารธุรกิจจากออสเตรเลีย หันมาเรียนรู้การจัดระเบียบบ้านอย่างจริงจัง ฝึกฝนการพับเสื้อผ้าหลากหลายแบบ รวมถึงลองออกไปสอนคนอื่นๆ ให้หันมาเปลี่ยนแปลงชีวิตง่ายๆ ด้วยการจัดระเบียบบ้าน นอกจากนี้ เธอยังนำทักษะของ Life Coach ที่ได้ศึกษามาซึ่งเป็นหลักสูตรที่ได้การรับรองจากสหพันธ์โค้ชนานาชาติ International Coach Federation (ICF) มาประยุกต์ใช้กับการจัดระเบียบบ้านอีกด้วย

ปัจจุบัน นอกเหนือจากงานประจำที่ทำอยู่เกี่ยวกับการวิเคราะห์นโยบายและแผนแล้ว เธอยังเป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งเพจ “Proud จัดระเบียบเปลี่ยนชีวิต” หรือ Proud Declutter Coach (โค้ชและที่ปรึกษาด้านการจัดระเบียบบ้าน) ซึ่งมีหลายคนพูดกันว่า ในอนาคตเธอน่าจะเป็น “คนโด มาริเอะของเมืองไทย”

ก้าวแรกที่ทำให้คุณสนใจจัดระเบียบบ้าน

เราเป็นคนชอบจัดของห้องตัวเองอยู่แล้ว แต่จัดเท่าไหร่ ไม่นานก็กลับมารกอยู่ดี จนโดนคนที่บ้านบ่นบ่อยๆว่าเป็นคนไม่มีระเบียบ จนวันหนึ่งเราไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วต้องอาศัยอยู่กับคนอื่นๆ เลยตั้งใจว่าจะไม่ทำให้รกเด็ดขาดเพราะเกรงใจ เลยเริ่มจัดข้าวของของตัวเองให้เป็นระเบียบแล้วเป็นหมวดหมู่ แต่สุดท้ายก็กลับมารกอยู่ดี มีหลายๆครั้งที่ท้อแท้ แต่สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่ต้องกลับมาจัดมันอีก

จนเมื่อปี 2559 เรามีโอกาสได้อ่านหนังสือชีวิตดีขึ้นทุกๆ ด้านด้วยการจัดระเบียบบ้านแค่ครั้งเดียว ของคนโด มาริเอะ (คอนมาริ) เลยรู้ว่าทำไมห้องของเรากลับมารกได้อย่างรวดเร็ว ยิ่งอ่านก็ยิ่งเข้าใจ เลยนำวิธีของคอนมาริมาทดลองทำ

ตอนแรกๆที่ทำมันก็รู้สึกขัดกับความรู้สึกตัวเองอยู่บ้าง แต่ก็พยายามทำ จนในที่สุดพอจัดระเบียบเสร็จ เราก็คอยดูว่ามันจะกลับมารกอีกไหม จนผ่านไป 3 เดือน เราตื่นเต้นมาก มันไม่กลับมารกอีกแล้ว

ประสบการณ์ที่คุณประทับใจจากการจัดระเบียบบ้าน

เวลาเห็นว่าบ้านกลับมารก แต่เราใช้เวลาในการเคลียร์ของที่รกๆ นี้ไม่นาน เหมือนแบบใช้เวทมนต์เลยแค่เสกห้องก็หายรก เราเพิ่งรู้ว่าการจัดระเบียบบ้านเป็นส่วนหนึ่งที่คอยหล่อหลอมตัวเรา โดยเฉพาะการรู้จักตัวเอง

การจัดระเบียบบ้านช่วยทำให้คุณรู้จักตัวเองได้อย่างไร

เริ่มจากการใส่เสื้อผ้า การเลือกซื้อเสื้อผ้า แต่ก่อนเป็นคนเห็นของอะไรสวย เห็นอะไรน่ารักก็ซื้อหมด เห็นคนอื่นใส่แล้วสวยดี ซื้อเพราะความชอบในขณะนั้น แต่พอได้ครอบครองแล้วสุดท้ายก็ไม่เอามาใส่ แต่พอเราได้จัดระเบียบเสื้อผ้าของตัวเองแล้ว การคัดเลือกเสื้อผ้าของเราไปทีละตัว ผ่านการคุยกับตัวเองไปด้วย มันทำให้เราเริ่มรู้ว่าจริงๆแล้วเราชอบเสื้อผ้าสีไหน ชอบใส่เสื้อผ้าสไตล์ไหน เสื้อผ้าแบบไหนที่ใส่แล้วเรามั่นใจและเป็นตัวเองที่สุด พอเราได้จัดครั้งที่สอง มันยิ่งทำให้เห็นความชอบของตัวเองชัดมากขึ้น คัดสรรเลือกเสื้อผ้าว่าตัวไหนจะเก็บ ตัวไหนเราจะปล่อยได้ง่ายมากขึ้น สรุปง่ายๆ เลยคือเรารู้ว่าจริงๆแล้วเสื้อผ้าแบบไหนเหมาะกับเรา แล้วเราก็ชอบมันมีความสุขที่ได้ใส่มันด้วย

การจัดระเบียบบ้านมีผลต่อจิตใจใช่ไหม

ใช่ค่ะ ในระหว่างการจัดระเบียบบ้าน หลายคนมักเครียด สับสน แต่หลังทำเสร็จแล้ว คือ มีความสุข และโล่งใจมากเมื่อเห็นบ้านโล่งเป็นระเบียบ เพราะในระหว่างการจัดระเบียบบ้านตอนที่เราเครียด สับสนนั้น เป็นเพราะว่าเราต้องใช้เวลาคิดใคร่ครวญมากกว่าปกติ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันช่วยทำให้เราได้ทบทวนตัวเองและพฤติกรรมบางอย่างที่ซ่อนอยู่ ช่วยให้เราพบต้นตอที่แท้จริงของปัญหา และทำให้แก้ไขปัญหาได้อย่างถูกต้อง นำไปสู่การปล่อยวางอย่างแท้จริง

คุณเชื่อคำว่า บ้านยิ่งรก ยิ่งสะท้อนว่าเจ้าของบ้านยิ่งทุกข์ บ้างไหม

เราเชื่อว่า สิ่งของที่เก็บเอาไว้แล้วทุกข์เหมือนภาระที่คนๆ หนึ่งแบกเอาไว้ เพราะการเก็บของแต่ละชิ้นมีเหตุผลเสมอ

"เราเชื่อว่า สิ่งของที่เก็บเอาไว้แล้วทุกข์เหมือนภาระที่คนๆ หนึ่งแบกเอาไว้ เพราะการเก็บของแต่ละชิ้นมีเหตุผลเสมอ"

ทำไมคนทั่วไปถึงยังทนอยู่ในบ้านรกกันได้

ความเคยชินค่ะ ตอนแรกคงรู้สึกรกรุงรังเกะกะสายตา แต่พออยู่ไปสักพักมักเริ่มเป็นความชิน และกลายเป็นเรื่องปกติของชีวิต

จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ลูกค้าแต่ละคนมีสาเหตุที่แตกต่างกันออกไป บางคนตัดใจทิ้งไม่ได้ เก็บทุกอย่าง เพราะคำว่า “เผื่อว่าอนาคต....” หรือซื้อทุกอย่างเพราะคิดว่า “จะต้องได้ใช้สักวัน....หรือของมันลดราคา....” หรือจัดเก็บไม่เป็น ไม่หาที่อยู่ให้กับสิ่งของ

อะไรคือความยากง่ายของการจัดระเบียบบ้าน

สิ่งที่ยากที่สุดเลยคือการตัดสินใจ “เลือกเก็บ” ของที่รัก “เลือกทิ้ง”ของที่ตัวเองไม่ชอบ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เพราะคือการทำความเข้าใจกับตัวเอง สิ่งที่ง่ายที่สุดกลับเป็น “การจัดเก็บ” เราสามารถเก็บไว้ไหนก็ได้ตามใจชอบ มันเหมือนการได้ทำตามใจตัวเอง

คุณมีคำแนะนำ ให้คนตัดสินใจเก็บหรือทิ้งได้อย่างไร?

ต้องใจเย็นๆ คนส่วนใหญ่มักใจร้อน อยากเห็นผลลัพธ์เร็วๆ เหมือนการลดน้ำหนัก เราคงไม่สามารถลดน้ำหนัก 10 กิโลกรัมได้ภายใน 1 อาทิตย์ การตัดสินใจเก็บหรือทิ้งก็เช่นกันค่ะ

ตอนเราฝึกช่วงแรกๆ เราก็ไม่สามารถตัดสินใจเด็ดขาดได้ในคราวเดียว ถึงแม้ว่าจะเป็นแค่เสื้อผ้าก็ตาม เพราะเสื้อผ้าบางตัวเรามีความทรงจำกับมัน แต่เราต้องทำเรื่อยๆ ครั้งนี้เราคัดออกได้แค่ 10 ตัว จากเสื้อผ้าเป็นร้อยๆ ตัว แต่อย่างน้อยเราก็ได้คัดเสื้อผ้าที่เราไม่ชอบ ที่เราไม่ใส่ออกไปตั้ง 10 ตัว แล้วเราก็ได้ผ่านการคิดทบทวนแล้วว่าของพวกนั้นไม่ได้เหมาะกับเราเพราะอะไร สิ่งสำคัญคือ การคุยกับตัวเองทุกครั้งเมื่อทำการตัดสินใจคัดเลือก แล้วจำความรู้สึกนั้นไว้ เพราะเมื่อเวลาผ่านไปมันจะทำให้เราจำได้ว่าทำไมเราถึงเก็บ หรือทิ้งเสื้อผ้าตัวนั้นๆไป และในการจัดระเบียบครั้งต่อไปจะง่ายขึ้น และใช้เวลาน้อยลง

แม่บ้านทำความสะอาดแตกต่างกับโค้ชสอนจัดระเบียบบ้าน อย่างไร

แตกต่างทั้งกระบวนการและผลลัพธ์ การจัดระเบียบไม่ใช่แค่การทำให้บ้านสะอาดเท่านั้น แต่มันคือการจัดระเบียบความคิดและจิตใจจากภายในสู่ภายนอก ส่วนผลลัพธ์เหมือนกันตรงที่ห้องสะอาด บ้านสะอาด แต่ระยะเวลาที่จะทำให้มันคงอยู่สภาพเดิมแตกต่างกัน เรามั่นใจว่าการจัดระเบียบบ้านจะให้ผลลัพธ์ในระยะยาว ไม่ว่าบ้านจะเริ่มกลับมารกมากเพียงใด แต่ก็จะใช้เวลาไม่มากในการจัดเก็บให้มันกลับมาเป็นระเบียบอีกครั้ง และจะทำให้คนเราหัวเสียน้อยลง (หัวเราะ)

ทุกวันนี้คนส่วนใหญ่ เลือกจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดแทน คุณคิดว่าการจัดระเบียบบ้านหรือนั่งพับผ้าด้วยตัวเองดีกว่าอย่างไร

การจัดระเบียบบ้านแต่ละครั้ง คุณต้องคุยกับตัวเองผ่านสิ่งของมันเป็นวิธีการเพื่อรู้จักตัวเองให้มากขึ้น

"สิ่งสำคัญคือ การคุยกับตัวเองทุกครั้งเมื่อทำการตัดสินใจคัดเลือก แล้วจำความรู้สึกนั้นไว้"

ทำไมจัดระเบียบบ้านต้องมีโค้ช

เหมือนกับการลดความอ้วนหรืออยากสร้างกล้าม ทำไมต้องมีเทรนเนอร์ ลดความอ้วนใครๆก็สามารถลดเองได้ถ้ามีความตั้งใจ แต่จะลดให้ถูกวิธี ทานอาหารถูกหลักโภชนาการ ออกกำลังกายให้ถูกท่า ป้องกันการบาดเจ็บ ก็ต้องมีเทรนเนอร์คอยสอนคอยดูแล การจัดระเบียบบ้านก็เช่นกัน เราเชื่อว่าใครๆก็สามารถเรียนรู้และทำได้ด้วยตนเอง แต่โค้ชจะคอยช่วยค้นหาต้นตอของปัญหาที่แท้จริงของบ้านรก และวิธีแก้ไขที่ถูกต้องเพื่อผลระยะยาว

หน้าที่ของโค้ชจัดระเบียบบ้านเขาทำอะไรกันบ้าง

โค้ชเป็นเหมือนเพื่อนในการจัดระเบียบบ้านค่ะ คล้ายๆเพื่อนคู่คิด แต่เราไม่ได้ช่วยคิดแทนคุณนะ คนคิดหลักคือตัวคุณ พวกเราจะช่วยตั้งคำถามเพื่อให้คุณหาคำตอบที่ลงตัวกับตัวคุณเองได้ โดยที่คุณเองก็มีความสุขกับคำตอบนั้นด้วย แล้วเราก็จะลงมือทำการจัดระเบียบบ้านไปพร้อมๆ กับคุณ

การจัดระเบียบบ้านแบบ proud เหมือนหรือต่างกับการจัดบ้านทั่วไปอย่างไร

การจัดบ้านทั่วไปเน้นทำความสะอาด ทิ้งของเยอะๆ วางให้เป็นระเบียบเพื่อบ้านหายรก แต่วิธีแบบ proud เชื่อว่า ข้าวของที่รกจนเต็มบ้านเป็นเพียงสิ่งที่อยู่บนยอดภูเขาน้ำแข็ง แต่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็งนั้นมีพฤติกรรมความรู้สึกนึกคิดที่ซ่อนอยู่ เราเน้นแก้ปัญหาที่ซ่อนอยู่ใต้น้ำแข็งนั้น เราจึงนำทักษะของ life coach มาใช้ด้วยในช่วงของการตั้งคำถามเพื่อมองหาปัญหาเบื้องลึก และใช้การจัดระเบียบบ้านเป็นเครื่องมือในการสำรวจตัวเอง

อยากให้คุณลองยกตัวอย่างว่าอะไรคือสิ่งที่ซ่อนอยู่ภายใต้ภูเขาน้ำแข็งเหล่านั้น

บางคนเป็นคนชอบซื้อเสื้อผ้าเยอะมาก เห็นเสื้อผ้าตัวไหนแล้วรู้สึกชอบก็ซื้อมาให้หมด โดยไม่ได้มองเลยว่า มันเหมาะกับตัวเองรึเปล่า สิ่งที่คนอื่นมองและตัดสินไปก่อนคือ คนนี้ช็อปปิ้งเก่ง เป็นคนมีความมั่นใจ ใช้เงินสิ้นเปลือง แต่ลึกๆ ในใจเขาอาจเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจ ความสับสนในตัวเองว่าจริงๆแล้วตัวเองชอบหรือไม่ชอบอะไร จึงแก้ปัญหาด้วยการซื้อเผื่อไว้ก่อน บางทีเพราะแคร์สายตาคนอื่นมากกว่าตัวเองก็ได้

เวลาคุณเจอคนบ้านรก คุณช่วยเหลือพวกเขาอย่างไร

มีอยู่เคสหนึ่ง เป็นคุณแม่อาศัยอยู่กับลูกเล็กๆ 2 คน และสามี ตอนเข้าไปตอนแรกก็ตกใจทั้งห้องรับแขก ห้องทำงาน และห้องนอน สิ่งของปะปนกันไปหมดและกระจัดกระจาย เรามีเวลาอยู่กันประมาณ 3 ชั่วโมง สิ่งที่เราสามารถช่วยเหลือได้คือเริ่มจากการพูดคุย สอบถามเพื่อ coaching กันสักครึ่งชั่วโมงเพื่อค้นหาปัญหาที่แท้จริง หรือที่เรียกว่าสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ภูเขาน้ำแข็งก่อน

หลังจากที่เขาเริ่มเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วเราถึงเริ่มสอนวิธีการจัดระเบียบบ้าน โดยเริ่มจากเสื้อผ้าในตู้เสื้อผ้า นำเสื้อผ้ามากองรวมกันให้หมด และเริ่มทำการคัดเลือกเสื้อผ้า โดยเรานั่งจัดเสื้อผ้าไปพร้อมกันด้วย และสอนวิธีการจัดเก็บเสื้อผ้าที่ถูกต้องให้

อีก 1 อาทิตย์ต่อมา เขาเล่าว่าตัดสินใจทิ้งข้าวของในห้องเก็บของเพื่อทำพื้นที่เก็บของเล่นและเป็นสนามเด็กเล่นในบ้านให้กับลูกๆ เขาภูมิใจมากเพราะหลังจากที่เด็กๆ มีพื้นที่ของตัวเองแล้ว ทำให้เด็กๆมีความรับผิดชอบกันมากขึ้น รู้ว่าควรเล่นตรงไหน และเก็บของตรงไหน ซึ่งทำให้เขาภูมิใจในฐานะแม่คนหนึ่งกับพัฒนาการของลูกๆ

ตอนนี้ผ่านไปปีกว่าแล้ว เขาทำบ้านให้น่าอยู่อยู่เสมอไม่กลับมารกแบบเก่า เพราะเขาได้ใช้เวลาอยู่กับมันจริงๆ ผลลัพธ์ที่ได้มาจึงเป็นผลในระยะยาว

อะไรคือสิ่งที่สำคัญต่อการจัดบ้าน ระหว่าง mindset เทคนิค และการลงมือทำ

เราคิดว่าการลงมือทำเป็นสิ่งสำคัญ เพราะเมื่อเราได้ลงมือทำ ลงมือสัมผัสกับการจัดระเบียบบ้านจริงๆ แล้วทำให้เราเรียนรู้ และเริ่มมีทัศนคติใหม่ๆเกี่ยวกับการจัดระเบียบมากขึ้น แต่บางคนก็อาจเริ่มจากการกำหนด mindset ก่อนเพื่อเป็นแรงกระตุ้นให้อยากลงมือทำ

การเป็นโค้ชสอนจัดระเบียบบ้าน มันได้สอนอะไรคุณบ้าง

สอนให้เรารู้จักตัวเอง เรียนรู้ผู้อื่นผ่านพฤติกรรมของเขา ทำให้เราเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น สอนให้เรามีความสุข และเห็นความสุขของคนอื่นด้วย

ในฐานะที่คุณเป็นโค้ชสอนจัดระเบียบบ้าน มีเสื้อผ้าที่ผ่านการพับของคุณมาแล้วกี่ตัว

โห (น้ำเสียงตื่นเต้น) นับไม่ถ้วนเลย น่าจะเป็นพันๆ ตัวได้แล้วค่ะ (หัวเราะ)

"พวกเราจะช่วยตั้งคำถามเพื่อให้คุณหาคำตอบที่ลงตัว กับตัวคุณเองได้ โดยที่คุณเองก็มีความสุขกับคำตอบนั้นด้วย"

……………………………………………….

bottom of page